เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [4. มหายมกวรรค] 8. มหาตัณหาสัขยสูตร

"เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปาทานจึงมี ในเรื่องนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายมี
ความเห็นเป็นอย่างนี้ พระพุทธเจ้าข้า"
"ข้อที่เรากล่าวแล้วว่า 'เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี' เพราะเวทนา
เป็นปัจจัย ตัณหาจึงมีใช่หรือไม่ หรือว่าในเรื่องนี้ เป็นอย่างไร"
"เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี ในเรื่องนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายมีความ
เห็นเป็นอย่างนี้ พระพุทธเจ้าข้า"
"ข้อที่เรากล่าวแล้วว่า 'เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี' เพราะผัสสะเป็น
ปัจจัย เวทนาจึงมีใช่หรือไม่ หรือว่าในเรื่องนี้ เป็นอย่างไร"
"เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี ในเรื่องนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายมีความ
เห็นเป็นอย่างนี้ พระพุทธเจ้าข้า"
"ข้อที่เรากล่าวแล้วว่า 'เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี' เพราะ
สฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมีใช่หรือไม่ หรือว่าในเรื่องนี้ เป็นอย่างไร"
"เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี ในเรื่องนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลาย
มีความเห็นเป็นอย่างนี้ พระพุทธเจ้าข้า"
"ข้อที่เรากล่าวแล้วว่า 'เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี' เพราะนาม-
รูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมีใช่หรือไม่ หรือว่าในเรื่องนี้ เป็นอย่างไร"
"เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี ในเรื่องนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลาย
มีความเห็นเป็นอย่างนี้ พระพุทธเจ้าข้า"
"ข้อที่เรากล่าวแล้วว่า 'เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี' เพราะ
วิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมีใช่หรือไม่ หรือว่าในเรื่องนี้ เป็นอย่างไร"
"เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี ในเรื่องนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลาย
มีความเห็นเป็นอย่างนี้ พระพุทธเจ้าข้า"
"ข้อที่เรากล่าวแล้วว่า 'เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี' เพราะสังขาร
เป็นปัจจัย วิญญาณจึงมีใช่หรือไม่ หรือว่าในเรื่องนี้ เป็นอย่างไร"

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 12 หน้า :437 }